> ชุมชน > ต.ปากกราน อ.เมืองพระนครศรีอยุธยา
ต.ปากกราน อ.เมืองพระนครศรีอยุธยา
ข้อมูลของชุมชนตำบลปากกราน อำเภอเมืองพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ตำบลปากกราน เป็น 1 ใน 21 ตำบล ในเขตการปกครองของอำเภอเมืองพระนครศรีอยุธยา (แยกเป็นตำบลที่อยู่ในเขตองค์การบริหารส่วนตำบลจำนวน 15 ตำบล และตำบลที่อยู่ในเขตเทศบาล 6 ตำบล) พื้นที่ตำบลตั้งอยู่ทางด้านใต้ฝั่งตะวันตกของเกาะเมืองพระนครศรีอยุธยา ซึ่งอยู่ถัดลงมาจากวัดไชยวัฒนาราม โดยห่างจากที่ว่าการอำเภอพระนครศรีอยุธยาประมาณ 7 กิโลเมตร ในปัจจุบันพื้นที่ของตำบลทั้งหมดมีประมาณ 22.5 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 14,018.75 ไร่ โดยมีอาณาเขต ดังนี้
ทิศเหนือ ติดต่อกับตำบลบ้านป้อม อำเภอพระนครศรีอยุธยา
ทิศใต้ ติดต่อกับตำบลคลองตะเคียน อำเภอพระนครศรีอยุธยา
ทิศตะวันออก ติดต่อกับตำบลสำเภาล่ม อำเภอพระนครศรีอยุธยา
ทิศตะวันตก ติดต่อกับตำบลบ้านกลึง อำเภอบางไทร
ภาพ_ที่ตั้งตำบลปากกราน อำเภอเมืองพระนครศรีอยุธยา
ที่มา: ปรับปรุงจาก http://www.ayutthaya.go.th/16/pranakon/pk_map.html
ลักษณะภูมิประเทศของตำบลปากกรานเป็นพื้นที่ราบลุ่ม เหมาะแก่การทำการเกษตร มีแม่น้ำเจ้าพระยาและลำคลองสำหรับส่งน้ำรวม 10 สาย ไหลผ่านบริเวณชุมชน ได้แก่ แม่น้ำเจ้าพระยา (ไหลผ่านหมู่ 14) คลองตะเคียน (ไหลผ่านหมู่ 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 11, 12, 13 และ 14) คลองปากกราน (ไหลผ่านหมู่ 7, 8, 9 และ 10) คลองบางกระชา (ไหลผ่านหมู่ 3 และ 5) คลองวัว คลองลาวและคลองอีบาง (ไหลผ่านหมู่ 10) คลองบางกะนาค (ไหลผ่านหมู่ 5 และ 8) คลองวัดช้าง (ไหลผ่านหมู่ 1) และคลองขวาง (ไหลผ่านหมู่ 9 และ 10) ทั้งนี้คลองตะเคียนเป็นลำน้ำที่ไหลผ่านบริเวณพื้นที่ชุมชนมากที่สุด รองลงมา คือ คลองปากกราน ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่เกษตรกรรม บางส่วนเป็นพื้นที่อยู่อาศัย และพาณิชยกรรม พื้นที่ตำบลมีถนน 2 สายหลักตัดผ่าน คือ ถนนสาย 347 และถนนสาย 3469 ถนนสาย 3469 นี้เป็นเส้นที่ตัดผ่านละแวกที่ตั้งบ้านเรือนส่วนใหญ่ของชาวบ้านในชุมชนเพื่อต่อเชื่อมกับทางหลวงสายเอเชีย 32 และเมืองอยุธยา แม้ว่าพื้นที่ตำบลจะอยู่ในเขตเมือง แต่ก็มีความเสียงที่จะเกิดอุทกภัยและน้ำท่วมขังในช่วงฤดูน้ำหลาก
จากเอกสารบันทึกของชุมชน สมัยกรุงศรีอยุธยาบริเวณตำบลปากกรานและตำบลบ้านป้อมนับเป็นพื้นที่เดียวกัน โดยพื้นที่บริเวณนี้ถูกเรียกว่า “ป้อมปราการ” ทางทิศตะวันตกของกรุงศรีอยุธยา ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา เนื่องจากในอดีตพม่ามักยกทัพมาทางด้านทิศตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งมาจากทางด้านจังหวัดระนอง และจังหวัดกาญจนบุรี ผ่านด่านเจดีย์สามองค์ พื้นที่บริเวณนี้จึงมีความสำคัญทำหน้าที่เพื่อเป็นเขตพื้นที่ในการป้องกัน และเป็นพื้นที่สำหรับเสาะหาข่าวต่างๆเกี่ยวกับข้าศึกโดยเฉพาะพม่า เพื่อรายงานเข้าสู่เมืองหลวง แม้ว่าพม่าจะมีการยกทัพเข้ามาตีกรุงศรีอยุธยาผ่านทางด้านนี้บ่อยครั้ง แต่มักไม่ประสบความสำเร็จในการเข้าตีกรุงศรีอยุธยา เนื่องจากไม่สามารถผ่านบริเวณป้อมปราการนี้ได้ อย่างไรก็ตามในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) ได้โปรดให้มีการปกครองในแบ่งส่วนการปกครองเป็นตำบล โดยมีกำนันและผู้ใหญ่บ้านเป็นผู้ปกครอง จึงทำให้มีการแบ่งพื้นที่ออกเป็นตำบลบ้านป้อม และตำบลปากกราน ทั้งนี้ตำบลปากกราน หรือบ้านปากกราน เดิมชื่อว่า “บ้านปราการ” แต่ถูกเรียกเพี้ยนกันมาว่า “บ้านปากกราน” และใช้เรียกชื่อนี้กันมาจนปัจจุบัน
ตำบลปากกราน มีการแบ่งการออกเป็น 14 หมู่บ้าน จำนวน 1,521 ครัวเรือน บ้านเรือนส่วนใหญ่มักปลูกสร้างเป็นกลุ่มเรือนเครือญาติ และกระจายตัวอยู่มากที่สุดบริเวณคลองตะเคียน และบางส่วนตามลำ-คลองสายย่อยต่างๆ ลักษณะของบ้านเรือนส่วนใหญ่เป็นบ้านไม้ยกพื้นสูง โดยมากเป็นเรือนไทยที่มีมาตั้งแต่ในอดีตที่ได้การปรับปรุงมาอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังมีบ้านเรือนที่ปลูกสร้างในรูปแบบในสมัยใหม่อยู่ประปรายอีกด้วย
ภาพ_บ้านเรือนในตำบลปากกราน อำเภอเมืองพระนครศรีอยุธยา
ตำบลปากกรานมีจำนวนประชากรรวมทั้งสิ้น 5,834 คน แบ่งเป็นชาย 2,812 คน และหญิง 3,022 คน การนับถือศาสนาของประชากรในตำบลมี 2 ศาสนาหลัก คือ ศาสนาพุทธ และศาสนาอิสลาม ผู้ที่นับถือศาสนาพุทธส่วนใหญ่เป็นชาวสยามหรือคนพื้นเมืองอยุธยา สืบเชื้อสายบรรพบุรุษมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ส่วนชาวมุสลิมเป็นกลุ่มแขกตานี ที่มาจากหัวเมืองปัตตานีและแหลมมาลายู ที่เข้ามาอยู่อาศัยและทำการค้าในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย บริเวณตำบลจึงมีวัดจำนวน 4 วัด และมัสยิดจำนวน 6 มัสยิด นอกจากนี้ยังมี ที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบลปากกราน สถานีอนามัยของตำบล มีโรงเรียน 5 โรงเรียน และศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก 5 แห่ง
เนื่องจากสภาพพื้นที่เป็นแบบกึ่งเมืองกึ่งชนบท ชาวบ้านในตำบลจึงประกอบอาชีพหลากหลาย ซึ่งมีทั้งอาชีพเกษตรกรรม เลี้ยงปศุสัตว์ อาชีพค้าขาย รับจ้างทั่วไป และรับราชการ หรือรัฐวิสาหกิจ อย่างไรก็ตามชาวบ้านมักยังคงไปมาหาสู่กันตามบ้านเรือนชุมชน และผู้ที่เป็นชาวพุทธส่วนใหญ่มักรวมตัวกันที่วัดในวันสำคัญทางศาสนาต่างๆ ส่วนชาวมุสลิมก็จะมีพิธีกรรมทางศาสนาทุกวันและวันสำคัญทางศาสนาที่มัสยิดตามช่วงวันเวลาต่างๆ